บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เตรียมอำลาวงการ ลั่นเคลียร์ทุกอย่างพร้อมจะบวชไม่สึก!!

 หลังเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์เข้าพิธีอุปสมบทไปอย่างเรียบง่ายเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง ร.9 ณ อุโบสถวัด บางแวก เขตคูหาสวรรค์ ภาษีเจริญ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุด บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้ลาสิกขาบทเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากบวชมาเป็นเวลา 3 เดือนด้วยกัน พร้อมกันนั้นได้มาร่วมงานแถลงข่าวภาพยนตร์เรื่อง “ทองดีฟันขาว” ณ SF World Cinema ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิลด์ ในฐานะผู้กำกับฯ ทั้งนี้ บิณฑ์ ได้เปิดเผยความในใจหลังบวชและสึกครั้งที่ผ่านมา ลั่นอยากสละทางโลกตลอดชีวิต หากเคลียร์ทุกอย่างลงตัว ตนก็พร้อมที่จะบวชไม่สึก!!   “ผมลาสิกขามาได้ 2- 3 วันแล้วครับ รู้สึกดีมากพูดจากใจถ้าหากไม่มีการโปรโมทหนังละก็ผมคิดว่าจะบวชไปเรื่อยๆ เพราะว่ารู้สึก ซึมซับอะไรที่เราไม่เคยทำไม่เคยรู้มาก่อน คิดไม่อยากจะสึก แต่ด้วยมีงานที่ต้องทำแล้ว ผู้ที่ร่วมทำงานโทรมาตามว่า ต้องสึกนะ มาช่วยกันทำงานก่อน เราก็รู้สึกเกรงใจ ที่ได้ร่วมงานกัน เราก็ตัดสินใจว่าเราทำอะไรแล้วเราต้องรับผิดชอบ ก็เลยไปปรึกษากับพระอาจารย์ ท่านก็บอกว่าไม่เป็นไร สึกไปก่อน แล้วเคลียร์งานทุกอย่างเสร็จค่อยกลับมา บวช ใหม่ก็ได้”   “ผมบวช 3 เดือนเต็มครับ บวชวันที่ 22ตุลาคม - 22 มกราคม และ บวช มาแล้วสองครั้ง ครั้งต่อไปครั้งที่ 3 ผมพูดเรื่องจริงเลยนะ ทุกวันนี้ผมสามารถสละกิเลสได้บางส่วนแล้ว และผมคิดว่าถ้าเราเคลียร์ทุกอย่างได้หมด ก็อาจจะกลับไปบวชต่อแล้วไม่สึก ผมพูดไว้ตรงนี้เลยนะ ถ้าผมได้บวชอีกรอบ ไม่สึกแน่นอน"   “แน่นอนครับ ขัดเกลาจิตใจเราได้อย่างแน่นอน เพราะตอนเรายังไม่บวช เราไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลยครับ เช้ามาต้องไปช่วยที่นู่นนี่นั่น เกี่ยวกับวงการบันเทิง ทุกวันนี้นอนตี 2-3 ตื่น 7- 8 โมงต้องออกจากบ้าน ยังไงก็แล้วแต่ พอเราบวช เราได้นอน 2-3ทุ่ม ได้สวดมนต์ก่อนนอน ตื่นมาก็สวดมนต์ ได้นั่งภาวนา ได้ออกไปช่วยผู้คน ทั้งหมดนี้ไม่เหมือนกับตอนไม่บวช พระต้องถือศีล 27 ข้อ เป็นเหมือนการบังคับตัวเอง อย่างเช่นเราเคยพูดหยาบ ก็ไม่พูดหยาบ เคยร้องเพลงเวลาอาบน้ำ ก็ต้องเปลี่ยนตัวเองทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้จิตใจสงบ และที่สำคัญเวลาเรารู้สึกโกรธ เมื่อเราบวชเป็นพระแล้ว สิ่งเหล่านั้นไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่ว่าใครจะพูดยังไง สำหรับเราที่บวชเป็นพระเราปล่อยวางได้ ถือว่าดีที่สุดมากๆ ครับ”    

loading...

loading...

   “สำหรับทางครอบครัว ผมก็ยังห่วงนะ เพราะแม่บอกว่า บวชครั้งต่อไปถ้าจะบวชตลอดชีวิตก็ไม่ต้องบวชแล้ว คือ ผมไม่ได้วางแผนอะไรเลย ถ้าผมมีบุญมาก ผมคงได้บวช และ ถ้าชีวิตนี้ถ้าผมจะตาย ผมขอตายในผ้าเหลือง และไม่เคยคิดมาก่อนเลย ขนาดตอนบวชผมตั้งใจไว้ 30 วัน พอครบกำหนดอาจารย์เดินมาถาม จะสึกเมื่อไหร่ ผมไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าจะสึกเมื่อไหร่” เห็นว่านำที่ชาวบ้านมาถวาย นำเข้าวัดหมดเลย   “ใช่ครับ เวลาผมไปบิณฑบาต ชาวบ้านให้เงินผม ผมไม่ใช้แม้แต่บาทเดียว ผมเก็บไว้จนกว่าจะสึกและผมมอบให้กับพระอาจารย์ และการที่ผมไปบิณฑบาตหลายจังหวัด ได้เงินปัจจัย ทั้งหมด 360,000 กว่าบาท ผมก็มอบให้กับพระอาจารย์หมดเลย เพราะผมเคยบอกไว้ว่าถ้าผมออกไปผมจะไม่เอาอะไรออกไปด้วย ขนาดเครื่องสังฆทาน ที่คนมาถวายให้ผมก็ไม่เอากลับ เพราะผมคิดว่าเรามาตัวเปล่า เราก็ต้องกลับตัวเปล่า”   "ผมยอมรับอย่างลูกผู้ชาย ว่าก่อนสึกผมนั่งร้องไห้กับพระอาจารย์ เพราะไม่รู้ว่าพอสึกไปครั้งนี้จะได้กลับมาอีกเมื่อไหร่ ภายใน 5 ปีนี้ เพราะพระเมื่อถึงอายุ 60 แล้วเขาคงไม่ให้บวช อีก 5 ปีแต่ไม่รู้ปีไหน" เมื่อผู้สื่อข่าวถามเรื่องความสัมพันธ์ภายในครอบครัวน้องชายฝาแฝดระหว่าง ไทด์ เอกพันธ์ กับภรรยา ยุ้ย คนึงนิจ ซึ่งกำลังมีปัญหากันถึงขั้นต้องการหย่าขาดจากกันนั้น บิณฑ์ เผยต่อว่า   “ผมพูดแบบเป็นกลางเลยนะครับ ว่าทั้งสองคนนี้มาปรึกษาผม เรื่องที่จะหย่ากัน ประมาณปีที่แล้ว แล้วผมก็ให้คำปรึกษาว่าจะหย่ากันเรื่องอะไร ผมเลยบอกไปว่าถ้าตัดสินใจว่าจะไม่อยู่ด้วยกันแล้วก็บอกมา พอคุยทั้งสองฝ่ายแล้ว ต่างฝ่ายก็บอกอีกฝ่ายไม่ยอมหย่า ก็ถ้าจะหย่าเรื่องอะไร อีกฝ่ายไม่พอใจในเรื่องนั้นเรื่องนี้ เลยบอกให้ไปคุยตรงๆ กันทั้งสองฝ่ายก่อนและค่อยมาบอก ปัญหาของทั้งคู่ ตั้งแต่ตอนนั้นก็ประมาณ 2 ปีแล้วครับ”   “คุยไปคุยมาถามทั้งสองฝ่าย ยุ้ยไปรู้ว่าไทด์ ไปมีผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงกำลังคบกันอยู่ ผมเลยมองเกมส์ว่า คงจะเอาชนะกัน แต่มองว่าทั้งสองคนมีความสุขมั้ย ไม่มีความสุขครับ ผมเป็นคนกลางผมรู้เลย ไม่มีความสุขแน่ แต่ถ้าจะอยู่เพื่อลูก ให้แยกกันดีกว่าครับ เพราะตอนนี้ลูกกำลังโต จนมาถึงตอนนี้ทั้งคู่ก็ยังตกลงกันอะไรไม่ได้ และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องมือที่สาม เพราะเขาเลิกกันก่อนหน้านี้แล้ว เขาไม่ได้อยู่ด้วยกันอยู่คนละบ้าน ผู้หญิงคนนี้ อาจเข้ามาแล้วทำให้คุณเอกพันธ์ รู้สึกดีขึ้น จากที่ไม่เคยมีความสุขทะเลาะกับภรรยามาตลอด แต่ให้พูดเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมือที่สาม และตอนนี้ยังไม่ได้หย่า และทั้งคู่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน และผมบอกทั้งคู่อยากให้แยกกันด้วยดี และมีลูกอยู่ตรงกลาง”

loading...

loading...

next more news : thailike.ga
news by ; http://gossipstar.mthai.com/gossip-content/60119