ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

loading...


หลวงพ่อพุธ : หลักของการปฏิบัติธรรมเพื่อทำสติให้เป็นมหาสติ ซึ่งเรียกว่า "มหาสติปัฏฐาน ๔" พระพุทธองค์ทรงสอนให้กำหนดพิจารณากาย เวทนา จิต ธรรม การพิจารณากายก็คือ การเจริญกายคตาสติ กำหนดเพ่งดูผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก ฯลฯ ในขณะที่เพ่งลงไปนั้น เมื่อจิตสงบลงไปแล้ว เราจะมองเห็นส่วนต่างๆ ของร่างกายมีลักษณะใสเหมือนแก้ว มองไปที่ผม ผมก็เป็นแก้ว มองไปที่ขน ขนก็เป็นแก้ว ทีนี้ ในเมื่อจิตมาท่องเที่ยวอยู่ในกาย นักปฏิบัติท่านเอากายเป็นเครื่องอยู่ของจิต เป็นฐานที่ตั้งของสติ ให้เป็นมหาสติ ยิ่งจิตมีความละเอียดขึ้นเท่าไร ความสว่างไสวปรากฏขึ้นในกายอย่างน่าอัศจรรย์ มองไปที่ไหนๆ ก็เป็นแก้วไปหมด ทีนี้ ถ้าหากท่านผู้นั้นมีจิตบริสุทธิ์สะอาด บรรลุพระอรหันต์เมื่อไร ในเมื่อท่านนิพพานไปแล้ว ส่วนต่างๆ ของร่างกายท่านก็กลายเป็นพระธาตุไปหมด

พระธาตุบางท่านก็ใส ของบางท่านก็ไม่ใส อันนั้นเป็นเรื่องความสว่างไสวของจิตของแต่ละท่าน ตัวอย่างที่เปรียบเทียบก็คือว่า เช่นอย่างหมอเรียนวิชาไสยศาสตร์ เขามีมนต์ต่อกระดูก เช่นอย่างกระดูกหักนี้ เขาท่องแต่เพียงคาถาอาคมแล้วก็เป่าลงไปเท่านั้น สามารถต่อกระดูกได้ พวกไสยศาสตร์นี้เขาไม่ได้อาศัยสมาธิอย่างละเอียดเหมือนการปฏิบัติ สมถวิปัสสนา เพียงแค่น้อมใจเชื่อคาถาอาคมที่เขาเรียนมาเท่านั้น แล้วในเมื่อเขาเป่าลงไปนั้นก็สามารถทำให้กระดูกต่อเข้ากันได้

ถาม : พระธาตุที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ จะทราบได้อย่างไรว่าเป็นพระธาตุจริงหรือพระธาตุปลอม?
หลวงพ่อพุธ : เรื่องนี้ถ้าหากเราสงสัย เราไม่สามารถจะทราบว่าอะไรเป็นของจริง อะไรเป็นของปลอม เราไปเทียบกับพระพุทธรูปที่เราหล่อขึ้น เราสมมุติว่านี่เป็นพระพุทธรูป นี่เป็นองค์แทนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรากราบไหว้บูชาก็เป็นบุญ พระธาตุนี้ที่มีลักษณะเป็นพระธาตุ ถ้าเราไม่แน่ใจว่าเป็นพระธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือไม่ แต่เราสมมุติเอาเป็นพระธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วเราสักการบูชา ก็เป็นบุญเป็นกุศล จะจริงหรือไม่จริงไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่จิตของเรานี้ว่า เชื่อในพระพุทธเจ้าจริงหรือไม่

ถาม : อัฐิของพระที่มรณภาพแล้วกลายเป็นพระธาตุขึ้นมานั้นเพราะเหตุใด?
หลวงพ่อพุธ : อัฐิของพระที่มรณภาพแล้วกลายเป็นพระธาตุขึ้นมานั้นจะต้องเป็นอัฐิของพระ อริยบุคคลตั้งแต่ขั้นพระโสดาบันขึ้นไป ทีนี้มีปัญหาว่า ทำไมกระดูกคนที่ตายไปแล้ว แม้จะเก็บไว้สักพันปีหมื่นปีก็ยังเป็นกระดูกอยู่อย่างเดิม ไม่แปรสภาพเป็นอย่างอื่น นอกจากจะผุพังไปเป็นดินเป็นหญ้าไปเท่านั้น แต่กระดูกของพระอริยบุคคลนี้ ทำไมกลายเป็นพระธาตุขึ้นมาได้ อันนี้เป็นปัญหาที่น่าสงสัย ถ้าหากเราจะไปนึกถึงหลักการปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องมหาสติปัฏฐาน กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เฉพาะกายานุปัสสนาสติปัฏฐานนี้ เราตั้งกายของเราเป็นฐานที่ตั้งของสติ เป็นฐานที่รู้ของจิต เพื่อเป็นการฝึกฝนอบรมสติให้มีประสิทธิภาพขึ้นจนกลายเป็นมหาสติ

ทีนี้ โดยทางปฏิบัติแล้ว พระผู้ที่ปฏิบัติท่านเพ่งอาการ ๓๒ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เป็นต้น เป็นเครื่องรู้ของจิต เป็นเครื่องระลึกของสติ ในเมื่อกายคืออาการ ๓๒ ถูกเพ่งบ่อยเข้า จิตเกิดมีสมาธิแล้ว ย่อมเกิดนิมิตให้เห็นในกายทั่วไป ส่วนมากสิ่งที่ปรากฏให้รู้เห็นอยู่นานที่สุดก็คือกระดูก มีโครงกระดูกเป็นต้น ในบางครั้ง ในเมื่อจิตวิ่งเข้ามาดูกายแล้วก็มาสงบสว่างในกาย จิตจะมองทะลุกายออกมา มีลักษณะดูเหมือนคล้ายๆ กับแก้วโปร่ง มีความใสเหมือนกับแก้วโปร่ง

เพราะฉะนั้น กระดูกของพระอริยบุคคลถูกจิตที่บริสุทธิ์สะอาดเพ่งเป็นวิหารธรรมอยู่บ่อยๆ ด้วยอิทธิพลของจิตนั้นจะสามารถทำให้กระดูกของท่านเมื่อท่านมรณภาพไปแล้วกลาย เป็นพระธาตุขึ้นมาได้

สำหรับทฤษฎีในทางอื่นนั้นไม่สามารถที่จะนำมาประกอบกับปัญหานี้ได้ แต่ถ้าจะพิจารณาตามประสบการณ์ที่เคยผ่านมาแล้ว รู้สึกว่า จิตเมื่อเพ่งดูโครงกระดูกจะรู้สึกว่า โครงกระดูกนั้นมีความใสเหมือนแก้ว เพราะในขณะนั้นจิตสงบ สว่างแล้ว เกิดนิมิตขึ้นมาพอมองเห็นได้ ข้อเปรียบเทียบก็คือว่า ขณะที่ว่าพระอริยบุคคลที่ท่านเพ่งดูอาการ ๓๒ คือร่างกายของท่าน จนจิตเกิดเป็นสมาธิ รู้จริงเห็นจริงภายในกาย แล้วมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างมีความใสสะอาด สว่างไสวไปหมดภายในกาย เมื่อท่านมรณภาพไปแล้ว กระดูกก็กลายเป็นพระธาตุขึ้นมาได้ อันนี้ก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่น่าสงสัยเท่าไรนัก แต่สำหรับนักเรียนมนต์ไสยศาสตร์เพียงเล็กๆ น้อยๆ เพียงแต่คาถาอาคมแล้วไปเสกน้ำมันไปทา แล้วก็เป่าในขณะที่คนขาหักแขนหัก ก็ยังมีประสิทธิภาพพอที่จะต่อกันได้ เพราะด้วยอำนาจแห่งพลังมนต์และพลังจิต

ฉะนั้น จิตของท่านผู้บำเพ็ญสมาธิภาวนานี้ ไม่ต้องกล่าวถึงเลยว่าจะมีประสิทธิภาพซึ่งสามารถทำให้กระดูกกลายเป็นพระธาตุ ขึ้นมาได้

loading...



ที่มา : https://www.facebook.com/Sornkritsana/posts/1542657296061012
loading...

Advertisement

0 comments:

Post a Comment

 
Top